วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2551

กฏหมายคอมพิวเตอร์

กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
ตอน : การกำหนดฐานความผิดและบทกำหนดโทษ
การ พัฒนากฎหมายอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ในเบื้องต้นนั้น พัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงลักษณะการกระทำความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ ระบบข้อมูล และระบบเครือข่าย ซึ่งอาจสรุปความผิดสำคัญได้ 3 ฐานความผิด คือ- การเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจ (Unauthorised Access)- การใช้คอมพิวเตอร์โดยไม่ชอบ (Computer Misuse)- ความผิดเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ (Computer Related Crime)ทั้งนี้ ความผิดแต่ละฐานที่กำหนดขึ้นดังที่สรุปไว้ข้างต้น มีวัตถุประสงค์ในการให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ความผิดฐานเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจหรือโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบการกระทำความผิดด้วยการเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจ หรือโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบ ถือเป็นการกระทำที่คุกคามหรือเป็นภัยต่อความปลอดภัย (Security) ของระบบคอมพิวเตอร์และระบบข้อมูล เมื่อระบบไม่มีความปลอดภัยก็จะส่งผลกระทบต่อความครบถ้วน (Integrity) การรักษาความลับ (Confidential) และเสถียรภาพในการใช้งาน (Availability) ของระบบข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์(1) การเข้าถึงโดยไม่มีอำนาจการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายนี้ อาจเกิดได้หลายวิธี เช่น การเจาะระบบ (Hacking or Cracking) หรือการบุกรุกทางคอมพิวเตอร์ (Computer Trespass) เพื่อทำลายระบบคอมพิวเตอร์หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูล หรือเพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เก็บรักษาไว้เป็นความลับ เช่น รหัสลับ (Passwords) หรือความลับทางการค้า (Secret Trade) เป็นต้นทั้งนี้ ยังอาจเป็นที่มาของการกระทำผิดฐานอื่นๆต่อไป เช่น การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อฉ้อโกงหรือปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื่องเป็นมูลค่ามหาศาลได้คำว่า "การเข้าถึง (Access)" ในที่นี้ หมายความถึง การเข้าถึงทั้งในระดับกายภาพ เช่น ผู้กระทำความผิดกระทำโดยวิธีใดวิธีหนึ่งโดยนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นั้นเอง และหมายความรวมถึง การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งแม้บุคคลที่เข้าถึงจะอยู่ห่างโดยระยะทางกับ เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่สามารถเจาะเข้าไปในระบบที่ตนต้องการได้"การเข้าถึง" ในที่นี้จะหมายถึง การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนก็ได้ ดังนั้น จึงอาจหมายถึง การเข้าถึงฮาร์ดแวร์ หรือส่วนประกอบต่างๆของคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่ถูกบันทึกเก็บไว้ในระบบเพื่อใช้ในการส่งหรือโอนถึงอีกบุคคล หนึ่ง เช่น ข้อมูลจราจร เป็นต้นนอกจากนี้ "การเข้าถึง" ยังหมายถึงการเข้าถึงโดยผ่านทางเครือข่ายสาธารณะ เช่น อินเทอร์เนต อันเป็นการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายหลายๆเครือข่ายเข้าด้วยกัน และยังหมายถึง การเข้าถึงโดยผ่านระบบเครือข่ายเดียวกันด้วยก็ได้ เช่น ระบบ LAN (Local Area Network) อันเป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆกันเข้า ด้วยกันสำหรับมาตราดังกล่าวนี้ กำหนดให้การเข้าถึงโดยมิชอบเป็นความผิด แม้ว่าผู้กระทำจะมิได้มีมูลเหตุจูงใจเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายก็ตาม ทั้งนี้ เพราะเห็นว่าการกระทำดังกล่าวนั้นสามารถก่อให้เกิดการกระทำผิดฐานอื่นหรือ ฐานที่ใกล้เคียงค่อนข้างง่ายและอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง อีกทั้งการพิสูจน์มูลเหตุจูงใจกระทำได้ค่อนข้างยาก

2) การลักลอบดักข้อมูลมาตรานี้บัญญัติฐานความผิดเกี่ยวกับการลักลอบดักข้อมูล โดยฝ่าฝืนกฎหมาย (Illegal Interception) เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิความเป็นส่วนตัวในการติดต่อสื่อ สาร (The Right of Privacy of Data Communication) ในทำนองเดียวกับการติดต่อสื่อสารรูปแบบเดิมที่ห้ามดักฟังโทรศัพท์หรือแอบ บันทึกเทปลับ เป็นต้น"การลักลอบดักข้อมูล" หมายถึง การลักลอบดักข้อมูลโดยวิธีการทางเทคนิค (Technical Means) เพื่อลักลอบดักฟัง ตรวจสอบหรือติดตามเนื้อหาสาระของข่าวสารที่สื่อสารถึงกันระหว่างบุคคล หรือกรณีเป็นการกระทำอันเป็นการล่อลวงหรือจัดหาข้อมูลดังกล่าวให้กับบุคคล อื่น รวมทั้งการแอบบันทึกข้อมูลที่สื่อสารถึงกันด้วยทั้งนี้ วิธีการทางเทคนิคยังหมายถึง อุปกรณ์ที่มีสายเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย และหมายรวมถึงอุปกรณ์ประเภทไร้สาย เช่น การติดต่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เป็นต้นอย่างไรก็ดี การกระทำที่เป็นความผิดฐานลักลอบดักข้อมูลนั้น ข้อมูลที่ส่งต้องมิใช่ข้อมูลที่ส่งและเปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้ได้ (Non-Public Transmissions) การกระทำความผิดฐานนี้จึงจำกัดเฉพาะแต่เพียงวิธีการส่งที่ผู้ส่งข้อมูล ประสงค์จะส่งข้อมูลนั้นให้แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใดโดยเฉพาะเจาะจงเท่านั้น ดังนั้น มาตรานี้จึงมิได้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาถึงเนื้อหาสาระของข้อมูลที่ส่งด้วย แต่อย่างใด

3 ความผิดฐานรบกวนระบบความผิดดังกล่าวนี้คือ การรบกวนทั้งระบบข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์ (Data and System Interference) โดยมุ่งลงโทษผู้กระทำความผิดที่จงใจก่อให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลและระบบ คอมพิวเตอร์ โดยมุ่งคุ้มครอง ความครบถ้วนของข้อมูล และเสถียรภาพในการใช้งานหรือการใช้ข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่บันทึก ไว้บนสื่อคอมพิวเตอร์ได้เป็นปกติตัวอย่างของการกระทำความผิดฐานดังกล่าวนี้ ได้แก่ การป้อนข้อมูลที่มีไวรัสทำลายข้อมูลหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือการป้อนโปรแกรม Trojan Horse เข้าไปในระบบเพื่อขโมยรหัสผ่านของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับเพื่อใช้ลบ เปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลหรือกระทำการใดๆอันเป็นการรบกวนข้อมูลและระบบ หรือการป้อนโปรแกรมที่ทำให้ระบบปฏิเสธการทำงาน (Daniel of Service) ซึ่งเป็นที่นิยมกันมาก หรือการทำให้ระบบทำงานช้าลง เป็นต้น

4 การใช้อุปกรณ์ในทางมิชอบมาตรานี้จะแตกต่างจากมาตราก่อนๆ เนื่องจากเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการผลิต แจกจ่าย จำหน่าย หรือครอบครองอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการกระทำความผิด เช่น อุปกรณ์สำหรับเจาะระบบ (Hacker Tools) รวมถึงรหัสผ่านคอมพิวเตอร์ รหัสการเข้าถึง หรือข้อมูลอื่นในลักษณะคล้ายคลึงกันด้วยแต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึง อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องระบบหรือทดสอบระบบ แต่การจะนำอุปกรณ์เหล่านี้มาใช้ได้ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องมีอำนาจ หรือได้รับอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้นสำหรับการแจกจ่ายนั้น ให้รวมถึงการส่งข้อมูลที่ได้รับเพื่อให้ผู้อื่นอีกทอดหนึ่ง (Forward) หรือการเชื่อมโยงฐานข้อมูลเข้าด้วยกัน (Hyperlinks) ด้วยสำหรับเรื่องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ของประเทศไทย เราก็คงจะว่ากันอย่างคร่าวๆเพียงเท่านี้ เพื่อให้มีพื้นที่ว่างสำหรับเรื่องอื่นๆที่น่าสนใจด้วย เพราะว่ากฎหมายไอทีนั้น มีอยู่มากมายหลายชนิด ต้องแบ่งๆกันไป

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

เที่ยวสวิซเซอร์แลนด์กันนน


Swizt!





โปรแกรมสำหรับปีนี้ ก็ยังคงคล้าย ๆ ปีที่แล้ว คือคละกันระหว่างเมืองและภูเขา ซึ่งมดจะพาเที่ยวภูเขาทั้งหมด 3 ภูเขาคือ

Pilatus - ยอดเขาพิลาทุส ถือเป็นเขาน้องเล็กสุดใน 3 เขาที่มดจะพาไป คือไม่สูงมากนัก อยู่ในเขตเมือง Luzern ค่ะ ซึ่งความพิเศษของที่นี่ อยู่ที่รถไฟที่ชันที่สุดในโลกค่ะ และยังได้เห็นวิวทิวทัศน์ 360 องศา ของเทือกเขาและทะเลสาบ Luzern อันงดงามด้วยค่ะ


Matterhorn / Zermatt - ยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น ยอดเขาที่ว่ากันว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในเมืองเล็ก ๆ น่ารักอย่างแซร์มัท (Zermatt) การจะได้เห็นยอดเขานี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้เห็นเมื่อไปเยือนค่ะ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นหลัก ซึ่งมดจะพยายามอย่างมากที่สุด ที่จะให้ทุกท่านได้ยลยอดเขามัทเทอร์ฮอร์นนี้ค่ะ

Jungfraujoch - ยอดเขายุ้งเฟราย็อค เป็นยอดเขาที่ว่ากันว่าถ้าได้ขึ้นไปเยือนก็เหมือนได้ไปสวรรค์ดี ๆ นี่เอง ด้วยความที่มีหิมะตลอดทั้งปี และความงดงามบนนั้น ทำให้ยุ้งเฟราไม่เคยเหงา และยังเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรปอีกด้วย
ไม่ใช่แค่นี้ค่ะ เพราะมดยังพาไปเที่ยวชมเมืองต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณรู้จัก สวิตเซอร์แลนด์มากขึ้นไปอีก


Stein am Rhein - ชไตน์ อัม ไรน์ เมืองเล็ก ๆ น่ารัก ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกับ ศิลปะฝาผนังที่ยังสวยงาม บ้านเรือนแบบเก่า ผู้คนน่ารัก เมืองที่อยู่ข้าง ๆ แม่น้ำไรน์นี้ จะทำให้คุณหลงรักตั้งแต่แรกที่ได้พบ

Rheinfalls - น้ำตกไรน์ น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่คุณสามารถเดินเลียบชมความงามได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยมดจะพาข้ามฝั่งด้วยเรือเล็ก ที่จะพาคุณไปใกล้ชิดน้ำตกแบบละอองพรมหน้าค่ะ

Luzern - ลูเซิร์น เมืองที่คนสวิสลงความเห็นว่าเป็นเมืองน่าอยู่อันดับต้น ๆ ค่ะ เพราะมีครบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ทะเลสาบ และเมืองเก่า

Bern - เบิร์น เมืองหลวงของสวิส ที่มีส่วนเมืองเก่าอันเป็นมรดกโลก และมีถนนช็อปปิ้งที่ยาวที่สุด

Zurich - ซูริค เมืองที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นเมืองหลวงของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพราะศูนย์รวมเศรษฐกิจทั้งหลายรวมอยู่ที่เมืองนี้หมด

St. Gallen - ซังท์ กัลเล่น เมืองที่เข้มแข็งทางศาสนา และมีห้องสมุดที่เก่าแก่งดงาม ที่ถูกอนุรักษณ์ให้เป็นมรดกโลก

Appenzell - อัพเพินเซล เมืองเล็ก ๆ ที่มีความเข้มแข็งทางวัฒนธรรม และเรื่องเล่าขานในตำนาน